วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สร้างเนื้อหาของสินค้าให้น่าสนใจ ด้วย Brand Storytelling


            ในแต่ละวันผู้บริโภคมีการติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook , Youtube, Twitter , Instagram และอื่นๆ  พบเห็นเนื้อหา (Content) ทั้งบทความ วิดีโอคลิป รูปภาพต่างๆ จำนวนมากมายเกินกว่าที่ผู้บริโภคจะสามารถจดจำได้หมด  ฉะนั้นเจ้าของแบรนด์สินค้าบริการต้องให้ความสำคัญกับสร้างเนื้อหา (Content Marketing) ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของสินค้าบริการและมีประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมถึงสร้างความแตกต่างจากสินค้าบริการประเภทเดียวกันในตลาด เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เกิดจดจำแบรนด์สินค้าบริการได้ง่ายและทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าบริการจนเปลี่ยนสถานะมาเป็นลูกค้าในที่สุด

  

           ซึ่ง  Marketing 101  มีบทความเกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นในการสร้างเรื่องราวของสินค้าให้ผู้บริโภคเป้าหมายเกิดความสนใจ และนำไปสู่การติดตามแบรนด์สินค้าบริการ ที่เรียกว่าBrand Storytellingเพื่อเป็นเกร็ดความรู้สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำ Brand Storytelling มาแบ่งปันกันนะครับ ;D 


Brand Storytelling คืออะไร

    Brand Storytelling คือรูปแบบ เนื้อหา (Content)  ที่ให้ความสำคัญกับการสร้าง เรื่องราวของแบรนด์สินค้าบริการ(Brand Storytelling)   ทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดให้ผู้บริโภคเกิดอารมณ์ความรู้สึกร่วม (Emotional Connection) กับเนื้อหาที่มีเรื่องราวของแบรนด์สินค้าบริการนั้นๆและยังทำให้ผู้บริโภคเกิดเชื่อมั่นไว้วางใจและจดจำแบรนด์สินค้าบริการได้ดี รวมถึงทำให้แบรนด์สินค้าบริการมีความชัดเจนและสร้างความแตกต่างจากแบรนด์สินค้าบริการอื่นๆในประเภทเดียวกัน และเนื้อหาที่สื่อสารออกไปนั้นยังก่อให้เกิดคุณค่า (Value) กับแบรนด์สินค้าบริการอีกด้วย


ลักการเบื้องต้นสำหรับการทำ Brand Storytelling


1. ต้องรู้จักแบรนด์สินค้าบริการของตนเอง 

         เราต้องมีความเข้าใจและรู้ว่าแบรนด์สินค้าเราคืออะไร จุดเด่นของสินค้าบริการคืออะไร ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหรือช่วยผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแก้ปัญหาได้อย่างไร มีความแตกต่างจากคู่แข่งเจ้าอื่นๆในตลาดอย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจนที่เจ้าของแบรนด์สินค้าบริการจะต้องทำการสื่อสารไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการจดจำได้และต้องสอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์สินค้าด้วย


 2.นำเสนอในเรื่อง ความเชื่อของแบรนด์สินค้า 

       ต้องพยายามนำเสนอแนวคิด หลักปฎิบัติของแบรนด์ ความเชื่อมั่นของแบรนด์ว่าแบรนด์เรามีความเชื่อมั่นอย่างไร กับสิ่งรอบๆตัว   สื่อสารผ่านเรื่องราวประสบการณ์ที่มีคุณค่าของแบรนด์ไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายเพื่อให้เกิดการรับรู้และเข้าใจถึงตัวตนของแบรนด์สินค้าบริการของเรา  


3.ต้องเข้าใจเส้นทางปฏิสัมพันธ์และประสบการณ์ของผู้บริโภคกลุุ่มเป้าหมายที่มีต่อแบรนด์สินค้าบริการ

        นอกจากเจ้าของแบรนด์สินค้าบริการจะต้องรู้จักกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าว่าเค้ามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบไหน มีความเชื่อแบบไหน และสิ่งที่เค้าต้องการจากแบรนด์สินค้าบริการคืออะไร  ยังต้องมีความเข้าใจในเส้นทางปฏิสัมพันธ์  (Customer Journey) ตั้งแต่การรับรู้ การค้นหาข้อมูล การตัดสินใจซื้อ รวมถึงการซื้อซ้ำ เพราะจะทำให้เจ้าของแบรนด์สินค้าบริการสามารถวางแผนการสื่อสารบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์และคุณค่าของแบรนด์ ให้สอดคล้องกับ Customer journey อย่างถูกช่วงเวลาถูกวิธีและชัดเจนเพื่อดึงดูดและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายให้เกิดความสนใจและนำสู่ความประทับใจและติดตามเรื่องราวของแบรนด์สินค้าบริการจนกลายเป็นลูกค้าในที่สุด 


4.สร้างการเชื่อมต่ออารมณ์ความรู้สึกระหว่างแบรนด์กับลูกค้า 

            สิ่งสำคัญในการสร้าง Brand Storytelling คือ การเชื่อมโยง เรื่องราวของแบรนด์สินค้าบริการที่เราต้องการจะสื่อสารบอกเล่าไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย กับ สิ่งที่กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายอยากฟังจากเรา  โดยที่เจ้าของแบรนด์สินค้าบริการจะต้องบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์เกี่ยวกับสิ่งที่เรายึดมั่นและต้องการแบ่งปันประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้เกิดการเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายทำให้เกิดอารมณ์และความรู้สึกร่วม (Emotional Connection)  และเกิดการคล้อยตามและติดตามเรื่องราวของแบรนด์สินค้าและบริการนั้น เช่น เรื่องราวของแบรนด์สินค้าบริการที่ทำให้เกิดภาพของความสุขจากการหัวเราะของคนในครอบครัวที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน หรือเรื่องราวของแบรนด์ที่สร้างจากประสบการณ์การสู้ชีวิตของคนที่มีลักษณะเดียวกันกับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าสะเทือนอารมณ์โดยที่กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายสามารถรับรู้ได้และเกิดอารมณ์และความรู้สึกร่วมและติดตามเรื่องราวของแบรนด์สินค้าบริการนั้นๆ เป็นต้น  


        ทั้ง 4 ข้อที่ได้กล่าวมานี้ ถือเป็นหลักการเบื้องต้นในการทำ Brand Storytelling เพื่อทำให้แบรนด์สินค้าบริการ มีเรื่องราวที่น่าสนใจ มีเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด สิ่งสำคัญคือการเชื่อมโยงเรื่องราวบอกเล่าของแบรนด์สินค้าบริการไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกร่วมกับแบรนด์สินค้าบริการทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและเกิดการจดจำได้นำไปสู่การติดตามแบรนด์สินค้าบริการในที่สุด นอกจากจะทำให้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายกลายเป็นลูกค้าของเราจากการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์สินค้าบริการแล้วยังสามารถสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์สินค้าบริการอีกด้วย ลองนำไปใช้กันดูนะครับ ;)


                                             #การตลาด 101


..................................

ติดตามประเด็น บทความ เนื้อหาสาระอื่นๆที่น่าสนใจหรือ เสนอแนะ ติชม ได้ที่ 

Facebook https://www.facebook.com/Marketing101th 

Blockdit:https://www.blockdit.com/marketing101 

email : mktg_101@hotmail.com


 

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2563

4 เคล็ดลับ กระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาล


ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลคริสต์มาส หรือวันสิ้นปี ร่วมถึงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งช่วงเทศกาลต่างๆนี้ส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าจะนิยมจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าเพื่อเตรียมไว้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ หรือเป็นของขวัญให้กับผู้ใหญ่ และบรรดาห้างร้านก็มักจะนิยมจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้ากันมากขึ้นอีกด้วยเมื่อเทียบกับช่วงการขายปกติ ช่วงเทศกาลจึงเป็นช่วงเวลาแห่งการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ห้างหรือผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ จะต้องให้ความสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  


การตลาด101 จึงมี 4 เคล็บลับดีๆ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายที่ดูสนุกและมีสีสันในช่วงเทศกาลมาฝากกันดังนี้ครับ ^^


1.ตกแต่งร้านค้าและช่องทางการสื่อสารออนไลน์ให้เข้ากับช่วงเทศกาล

 เช่น บริเวณหน้าร้านค้า ทางเข้าร้านค้า และที่ชั้นวางสินค้าต่างๆ ควรมีการตกแต่งประดับด้วยภาพตามเทศกาลนั้นๆ รวมถึงการช่องทางสื่อสารออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Website Facebook ของทางห้างร้านเองก็ควรออกแบบกราฟฟิกภาพต่างๆ ให้เป็นแนวทางเดียวกัน ซึ่งหากผู้ประกอบการร้านค้ามีการตกแต่งร้านค้าที่ดีก็จะสามารถเพิ่มความน่าสนใจและยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาแวะะชมสินค้าหรือสั่งซื้อสินค้าได้อีกด้วย 


2. โปรโมชั่นหรือบริการพิเศษ กระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า

ในช่วงเทศกาลนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่จะมีจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อเตรียมไว้สำหรับงานเฉลิมฉลอง สังสรรค์กับคนในครอบครัว ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง รวมถึงการหาของขวัญสำหรับผู้ใหญ่ที่เคารพ ดังนั้นผู้ประกอบการร้านค้า จึงควรมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้า ได้มากขึ้น เช่น ซื้อ 3 ชิ้นถูกกว่า หรือมีบริการพิเศษสำหรับการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลนั้นๆ เช่น การห่อบรรจุเป็นของขวัญฟรี หรือเมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท มีบริการจัดส่งถึงบ้านฟรี เฉพาะวันคริสต์มาสนี้เท่านั้น เป็นต้น


3. มีสินค้าพิเศษเป็นสินค้าแนะนำในช่วงเทศกาล

ในช่วงเทศกาลต่างๆ ทางห้างร้านควรมีสินค้าพิเศษในช่วงเทศกาลหรือเป็นสินค้าที่ขายดี เป็นสินค้าแนะนำของทางห้างร้าน เพื่อกระตุ้นความสนใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาที่ร้านค้าหรือเยี่ยมชม website หากยิ่งเป็นช่วงเทศกาลต่างๆด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้น และส่งผลให้ยอดขายของทางห้างร้านสูงขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญอย่างลืมเรื่องของการสต๊อกสินค้านั้นๆไว้ให้เพียงพอต่อการขายด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เสียโอกาสในการขายได้ 


4. พนักงานมีส่วนสำคัญในการให้บริการ 

นอกจาการตกแต่งร้านค้าและการมีโปรโมชั่นพิเศษต่างๆเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการซื้อสินค้าแล้ว พนักงานก็มีส่วนสำคัญในการให้บริการลูกค้าและสรา้งยอดขายในช่วงเทศกาลด้วย เช่น การแต่งกายของพนักงานให้เข้ากับเทศกาล การยิ้มแย้มและกล่าวคำทักทายลูกค้าที่สุภาพ รวมถึงการแนะนำสินค้าหรือโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลให้กับลูกค้าก็เป็นถือสิ่งสำคัญในการช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าและเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอีกด้วย


ทางการตลาด101 จึงขอฝาก 4 เคล็ดลับง่ายๆ ในการกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาลให้กับห้างร้าน และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการห้างร้านหรือผู้ที่สนใจ ลองนำไปใช้กันดูนะครับ ;) 


                                          #การตลาด101 


......................

ติดตามสรุป ประเด็น บทความ เนื้อหาสาระอื่นๆที่น่าสนใจหรือเสนอแนะ ติชม ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/Marketing101th
Blockdit :https://www.blockdit.com/marketing101
e mail : mktg_101@hotmail.com